วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2554

สะดุดรักเค้กชาเขียว (2)

“กลับมาแล้วเหรอก้อง” พีรวิชญ์เอ่ยถามออกมาอย่างยินดี เมื่อเห็นว่าคนหน้าหวานเปิดประตูห้องเข้ามา รอยยิ้มมีเสน่ห์ผุดขึ้นมาบนใบหน้าหล่อๆ นั้นทันที

“อืม......แล้วคุณล่ะ กลับมานานหรือยัง” ก้องบดินทร์ถามคนหน้าคมพลางเดินมานั่งที่โซฟาตัวยาวข้างๆ

“สักพักแล้วล่ะก้อง......แล้ววันนี้คุณไปไหนกับพี่แก้วมาบ้างล่ะ สนุกมั๊ยครับ” พีรวิชญ์ถามคนตรงหน้าอย่างเอาใจ มือหนาเอื้อมไปลูกเส้นผมนุ่มสั้นอย่างอ่อนโยน

ก็ไปหลายที่อ่ะพี......ไปร้านเค้กของเพื่อนสนิทพี่แก้วมา  แล้วก็เลยไปทานข้าวเย็นที่บ้านกับแม่  ว่าแต่คุณเถอะ กินข้าวหรือยัง แล้ววันนี้ซ้อมเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยมากมั๊ยครับ” คนหน้าหวานเอ่ยถามคนรักอย่างเป็นห่วง ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าของคนข้างๆ อย่างใจจดใจจ่อ

“ผมกินแล้วคร้าบ กับข้าวฝีมือของคุณอร่อยไม่เปลี่ยนเลยนะก้อง ส่วนที่คุณถามว่าวันนี้ผมเหนื่อยมั๊ย บอกได้เลยคร้าบว่า เหนื่อย เหนื่อยมากๆ เลย เฮ้อ.......ไม่รู้จะมีใครใจดี ช่วยให้ผมหายเหนื่อยบ้างมั๊ยน๊า” คนหน้าคมพูดพลางยื่นหน้าเข้มๆ  เข้ามาคลอเคลียแถวแก้มนวลของคนหน้าหวาน ฝ่ายก้องบดินทร์เห็นท่าทางของคนตรงหน้าก็รีบใช้มือยันหน้าอกของคนข้างๆ อย่างรวดเร็ว

“เอ่อ......พี.....คือผมเหนื่อยมากเลยวันนี้ ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ” คนตาโตหน้าแดงก่ำ ก้มหน้างุดๆ หลบสายตาวิบวับของคนหน้าเข้ม พลางจะลุกออกจากโซฟา แต่ก็ถูกมือหนาคว้าไว้ที่ข้อมือก่อนจะฉุดลงมาอย่างรวดเร็ว จนทำให้คนหน้าหวานเสียหลักล้มไปนั่งอยู่บนตักของพีรวิชญ์

“เดี๋ยวสิก้อง.....จะรีบไปไหนคร้าบ น้ำน่ะค่อยอาบก็ได้ อยู่กับผมก่อนสิ” คนหน้าเข้มส่งสายตาเจ้าเล่ห์ พร้อมรอยยิ้มละลายขั้วโลกมาให้กับคนตรงหน้า แล้วถือโอกาสกอดคนที่เสียหลักไว้ทั้งตัว

ใบหน้าของคนทั้งสองห่างกันเพียงแค่คืบ จนรู้สึกถึงลมหายใจของกันและกัน ก้องบดินทร์ก้มหน้างุดๆ หวังซ่อนแก้มที่ซับสีเลือดขึ้นจากสายตาคนตรงหน้า แต่ก็ดูเหมือนว่าคนหน้าหวานจะไม่มีทางหลบสายตาคมๆ ของพีรวิชญ์ได้เลย เพราะคนหน้าเข้มก็เอาแต่จ้องเอา จ้องเอา จนก้องบดินทร์หูแดง ตัวแดงไปทั้งตัว

ฝ่ายพีรวิชญ์เมื่อเห็นอากัปกิริยาของคนรักก็อดที่จะยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูไม่ได้ แต่เค้าก็ยังอยากที่จะแกล้งคนตรงหน้าต่อไป เค้าอยากรู้ว่าก้องบดินทร์จะเหวี่ยงใส่เขาด้วยวิธีไหนอีก คนหน้าคมยื่นหน้าเข้าไปใกล้หน้าหวานๆ จนริมฝีปากหนาชิดกับแก้มนวลๆ ก่อนเอ่ยถามก้องบดินทร์ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“วันนี้ที่คุณออกไปข้างนอกกับพี่แก้วเป็นเพราะว่าคุณเหงาใช่ไหมครับ” คนหน้าคมไม่ได้เพียงแค่ถามเฉยๆ แต่กดริมฝีปากที่อยู่ชิดกับแก้มนวลของคนตรงหน้าด้วยเบาๆ พลางอมยิ้มน้อยๆ กับความคิดของตัวเอง อืม......แก้มเนียนๆ ของก้องหอมไม่เปลี่ยนเลยแหะ

“ฮึ่ยยยย.......พี” คนแก้มป่องอุทานพร้อมเบี่ยงตัวหลบริมฝีปากอุ่นๆ ของคนหน้าเข้ม ก่อนที่จะเหวี่ยงเล็กๆ ตามแบบฉบับของก้องบดินทร์

“ใครบอกคุณกันว่าผมเหงา ผมไม่ได้เหงาซักหน่อย ผมแค่คิดถึงแม่กับพี่แก้วต่างหาก” แต่ถึงน้ำเสียงจะเหวี่ยงวีนสุดฤทธิ์ แต่ก้องบดินทร์ก็ไม่สามารถควบคุมเสียงที่สั่นสะท้านของตัวเองให้เป็นปกติได้เลย

“จริงเร้อ.........ผมก็เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าแฟนของผมเป็นลูกแหง่ติดแม่” พีรวิชญ์ปล่อยระเบิดลูกเบ่อเร้อพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะอย่างเต็มที่ จึงได้กำปั้นรัวๆ จากคนหน้าหวานเป็นการตอบแทน

“ทำไม....ผมจะเป็นลูกแหง่ติดแม่แล้วยังไงไม่ทราบ นี่คุณพี คุณปล่อยผมเดี๋ยวนี้เลยนะ ผมจะไปอาบน้ำ ปล่อยซิ ปล่อย....”

ก้องบดินทร์ดิ้นขลุกขลักยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม แต่แล้วก็ต้องสิ้นฤทธิ์เมื่อได้ยินเสียงของคนรักกระซิบที่ข้างหู

“ชู่ววววว...........ก้อง ผมขอโทษนะที่ปล่อยให้คุณเหงา คุณทนอีกนิดเดียวนะ เดี๋ยววันมะรืนผมก็จะแข่งแล้ว ผมจะรีบกลับบ้านทันทีที่ซ้อมเสร็จ จะไม่พยายามทำให้คุณรู้สึกโดดเดี่ยวอีก ผมจะขยันส่งข้อความถึงคุณบ่อยๆ ดีมั๊ยครับ” คนหน้าคมพูดพลางส่งยิ้มที่สามารถละลายไปสามโลกให้คนที่อยู่ในอ้อมกอด

“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรคุณสักหน่อย คุณเองก็ทำให้เต็มที่ก็แล้วกัน” ก้องบดินทร์ตอบเสียงอ่อน

“คร้าบ.......ก็กำลังใจของผมดีนี่นา ว่าแต่ตอนนี้ผมขอกำลังใจหน่อยนะ” ว่าแล้วชายหนุ่มเจ้าของรอยยิ้มละลายขั้วโลก ก็บรรจงประทับริมฝีปากลงไปบนริมฝีปากนุ่มๆ ของคนตรงหน้า ส่งผ่านสัมผัสที่อบอุ่นอ่อนโยนจนคนหน้าหวานสั่นสะท้าน พีรวิชญ์จูบซ้ำๆ เหมือนลองชิมความหวานจากเรียวปากอิ่มในตอนแรก ก่อนจะบดเบียดริมฝีปากหนาเข้ากับเรียวปากคู่สวย คนหน้าคมค่อยๆ เพิ่มความร้อนแรงของสัมผัส จนก้องบดินทร์ยินยอมให้ชายหนุ่มรุกรานเข้ามาในอุ้งปากหวานๆ นั้น เวลาผ่านไปเนิ่นนานจนก้องบดินทร์รู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจ จึงผลักหน้าอกของคนหน้าเข้มออกไป พร้อมกับเอ่ยเสียงหอบ

“เอ่อ....พี.....ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ”

“เดี๋ยวสิก้อง ผมยังได้กำลังใจไม่เต็มที่เลย” คนที่ต้องการกำลังใจพูดพลางซุกจมูกโด่งไปที่ซอกคอขาวๆ ก่อนจะไล้เรื่อยไปที่ไหล่ขาวเนียน ก็แหม!!! ดูก้องบดินทร์ตอนนี้สิ น่ารักน่ากิน เอ้ย!!! น่ากอดเป็นที่สุด

“โธ่.......พี ตอนนี้ผมเหนียวตัวมากจริงๆ ให้ผมไปอาบน้ำก่อนนะ นะคร้าบ” เมื่อเห็นว่าการเหวี่ยงวีนไม่ได้ผล คนแก้มป่องจึงเปลี่ยนวิธีการใหม่เป็นการใช้สายตาบ๊องแบ๊วออดอ้อนคนตรงหน้าแทน

“โอเคคร้าบที่รัก ผมจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าคุณยังไม่ลุกออกจากตัวผม อย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ.....หนึ่ง......สอง......สา......”
ไม่ต้องรอให้นับถึงสาม ก้องบดินทร์ก็รีบกระวีกระวาดลุกออกจากตักของคนรักแล้วรีบวิ่งขึ้นไปอาบน้ำในห้องนอนชั้นสองของห้องชุดทันทีเหมือนกลัวว่าคนหน้าคมจะเปลี่ยนใจในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง ส่วนตัวต้นเหตุของเรื่องก็นั่งหัวเราะเสียงดังขบขันกับท่าทีน่าเอ็นดูของคนหน้าหวานอยู่บนโซฟานั่นเอง
.
.
.
“ก้อง คุณไม่ได้ไปดูผมแข่งที่สนามจริงๆเหรอ” พีรวิชญ์ที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงโอดครวญเมื่อรู้ว่าก้องบดินทร์ไม่สามารถไปดูเขาแข่งขันที่สนามได้

“ก็ผมติดธุระกับพี่แก้วนี่นา” ก้องบดินทร์ที่เพิ่งเดินออกมาห้องน้ำตอบคนหน้าเข้ม ก็จะให้บอกเขาได้ยังไงล่ะว่าจะเตรียมทำเค้กชาเขียวเซอร์ไพรส์คนตัวโตตอนกลับมาถึงคอนโด ถึงเขาจะได้รับชัยชนะกลับมาหรือไม่ก็เถอะ

“แต่ผมต้องการกำลังใจนะคร้าบ” พีรวิชญ์ออดอ้อนคนรักสุดฤทธิ์ พลางเดินเข้าไปโอบคนรักให้นั่งลงบนเตียงด้วยกัน แล้วกอดคนหน้าหวานไว้อย่างหลวมๆ พร้อมเอาคางเกยไว้บนบ่า แต่เมื่อเห็นว่าคนในอ้อมกอดของเขาไม่ใจอ่อนง่ายๆ จึงแกล้งทำเป็นงอนใส่ เหวี่ยงคืนไปเสียบ้าง

“คุณไม่สงสารผมเหรอ......ใช่ซี๊เดี๋ยวนี้ผมมันไม่สำคัญแล้วนี๊”

เมื่อก้องบดินทร์เห็นท่าทางของคนตรงหน้าที่นานๆ จะงอแงเป็นเด็กๆ ก็อดขำไม่ได้ ดู๊ดู ดูทำเข้า หน้านี้งอเหลือสองนิ้วแล้วมั๊ง แล้วนั่น.......ไอ้อาการสะบัดสะบิ้งนั่นอีก เด็กทำมันน่ารักนะคุณพี แต่คนเจ้าเล่ห์อย่างคุณทำยังไงๆ มันก็ดูกวนอารมณ์มากกว่า 

 “นี่.......คุณขำอะไรอ่ะก้อง” นั่นๆๆ ดูซิ คิ้วขมวดเชียว ท่าจะโมโหจริงๆ แหะ โกรธน่าดำ เอ้ย!!! หน้าแดงเชียว.........

“ก็ขำคุณนั่นแหละพี ดูซิงอนเป็นเด็กๆ ไปได้ นี่คุณ....ถึงผมจะไปที่สนามไม่ได้ แต่ผมก็ติดตามการถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่านทางมือถือได้นี่นา โทรศัพท์ที่คุณซื้อให้ผมน่ะดูทีวีได้ไม่ใช่เหรอ แล้วที่สำคัญคุณไม่รู้เหรอว่าถึงแม้ผมจะไม่ได้อยู่ที่สนาม แต่ผมก็ต้องส่งกำลังใจไปให้คุณอยู่แล้ว”

“ไอเรื่องนั้นน่ะผมรู้แล้วคร้าบ......โอเค......ผมให้คุณไปธุระกับพี่แก้วก็ได้ ว่าแต่คุณไม่คิดจะปลอบใจผมหน่อยเหรอ” พอพูดถึงรางวัลปลอบใจ คนหน้าคมก็ส่งสายตาวิบวับมาให้คนตรงหน้าทันที

“ตลอดอ่ะพี” คนหน้าหวานเบี่ยงตัวเองออกจากอ้อมกอดของคนหน้าเข้ม แล้วนอนตะแคงหันหลังให้คนเจ้าเล่ห์ แต่มีหรือที่หมาป่าพีรวิชญ์จะปล่อยลูกแกะน้อยๆ ให้หลุดมือไปง่ายๆ คนหน้าคมพลิกตัวก้องบดินทร์ให้นอนหงายแล้วทาบทับตัวเองลงไปบนร่างของ ลูกแกะอย่างรวดเร็ว

“แน๊ะ......ก้อง มาทำให้ผมเสียใจ แล้วไม่คิดจะปลอบใจผมหน่อยเหรอ อย่างนี้มันต้องโดนทำโทษหนักๆ จะได้หลาบจำ” ว่าแล้วคนหน้าคมก็พรมจูบไปทั่วใบหน้าของคนหน้าหวาน มือหนาสะเปะสะปะไปทั่วร่างของคนข้างล่างอย่างถือสิทธิ์ ก้องบดินทร์ส่งเสียงครางเบาๆ ในลำคอ ก่อนที่เสียงนั้นจะถูกกลืนหายไปเพราะคนหน้าคมประทับริมฝีปากของตัวเองบดเบียดเข้ากับริมฝีปากของคนหน้าหวานอย่างเร่าร้อน ลิ้นอุ่นๆ ไล้ไปตามริมฝีปากนุ่มเหมือนอยากจะลิ้มรสความหวานให้สมใจ คนหน้าเข้มเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียง และแล้วลูกแกะจอมเหวี่ยงก็ถูกหมาป่าเจ้าเล่ห์ทำโทษจนสิ้นฤทธิ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น